เปรียบเทียบ  Live Shopping platform แพลตฟอร์มไหนที่เหมาะกับแบรนด์ของคุณ

หนึ่งในรูปแบบของการขายสินค้าออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมสูงในช่วงนี้ เราคงปฎิเสธรูปแบบการไลฟ์สดขายของไปไม่ได้ค่ะ เพราะไม่ว่าจะเลื่อนผ่าน Social Media แพลตฟอร์มไหนๆ เราก็จะมองเห็นเหล่าแม่ค้าออนไลน์หรือแบรนด์ต่างๆ หันมาไลฟ์สดโปรโมทสินค้า หรือโปรโมชั่นต่างๆที่น่าสนใจ และในส่วนของ E-Commecre Platform ก็ยังมีรูปแบบของการไลฟ์สดขายของมาให้เห็นอยู่เป็นประจำเช่นกันค่ะ

ด้วยรูปของไลฟ์คอนเทนต์ที่สามารถโต้ตอบกันระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขายได้ในทันที รวมไปถึงรูปแบบการนำเสนอสินค้าให้น่าสนใจ โดดเด่นและดึงดูดให้ผู้รับชม..ให้อดใจซื้อกันไม่ไหวนั่นเองค่ะ เห็นแบบนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าแต่ละ Live Shopping platform มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

1. Facebook Live Shopping 

Facebook ถือเป็นช่องทางหลักที่หลายแบรนด์เลือกให้ความสำคัญ โดยอาจเรียกได้ว่าการมี Facebook Page เปรียบเสมือนการสร้างหน้าร้านออนไลน์ที่สะดวกและรวดเร็ว และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายค่ะ โดยรูปแบบของ Facebook Live Shopping มีความน่าสนใจดังนี้

  • ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่านไลฟ์ได้ในทันที โดยแบรนด์สามารถเพิ่มสินค้าและรายละเอียดต่างๆ ลงใน Catalog ได้เลย
  • ฟีเจอร์ชำระสินค้า ที่สามารถชำระได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องออกจากแอพ
  • สามารถทดลองไลฟ์ก่อนได้ด้วยการปรับเป็นโหมด Only Me
  • สามารถโปรโมทไลฟ์ได้ทั้งก่อนทำการไลฟ์ และโปรโมทหลังทำการไลฟ์ด้วยการโพสต์วิดีโอลงบน Timeline ให้ลูกค้าสามารถรับชมย้อนหลัง
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ได้ด้วยการยิงแอด หรือบูสท์โพสระหว่างไลฟ์หรือหลังจากไลฟ์จบได้
  • สำหรับแบรนด์ที่มีฐานผู้ติดตามบน Facebook อยู่แล้ว ถือเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจ
  • สามารถเชื่อมต่อกับลูกค้ากับทาง Instagram ได้

*หมายเหตุ Facebook ได้ออกประกาศยุติฟีเจอร์ Facebook Live Shopping ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2022 นี้ แต่ยังคงมีฟีเจอร์ Live แบบปกติที่ไม่สามารถสร้าง Product Playlist หรือ Tag products ได้

2. TikTok Live Shopping

TikTok แพลตฟอร์มมาแรงที่มาในรูปแบบคอนเทนต์แบบ Short Video ซึ่งในส่วนของรูปแบบไลฟ์คอนเทนต์ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยมีความน่าสนใจดังนี้ค่ะ

  • ฟีเจอร์ Product Link ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าผ่านไลฟ์ได้เลย โดยสามารถไฮไลท์สินค้าที่ต้องการเสนอระหว่างไลฟ์ได้
  • สามารถ Schedule Live ไว้ก่อนได้ เพื่อให้ผู้ติดตามทราบและเตรียมรับชมไลฟ์ 
  • สามารถเชิญ Co-host หรือ Guest ให้สามารถเข้าร่วมไลฟ์ไปด้วยกันได้ ซึ่งทำให้เข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ ได้มากยิ่งขึ้น

มีข้อจำกัดในการไลฟ์คือ ต้องมี Followers 1,000 คน ขึ้นไปจึงสามารถไลฟ์ได้

3. Shopee Live

แพลตฟอร์ม Ecommerce ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยก็มีช่องทางไลฟ์ที่ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยซัพพอร์ทแบรนด์ในการนำเสนอสินค้าบนแพลตฟอร์ม ให้สามารถเข้าถึงลูกค้า และโต้ตอบในแบบ Real Time ได้ค่ะ ซึ่งความน่าสนใจของการ Live บน Shopee มีดังนี้

  • โหมด Picture in picture ที่สามารถนำเสนอภาพของสินค้าไปพร้อมกับภาพของผู้ขายได้เลย
  • กิจกรรมระหว่างไลฟ์ที่ช่วยส่งเสริมการขายเช่น รับโค้ดพิเศษเมื่อกดติดตาม แจกโค้ดภายในไลฟ์ 
  • สามารถเลือกแสดงคลิปย้อนหลังได้สูงสุดถึง 90 วัน
  • สัญลักษณ์แจกโค้ดบนภาพปกไลฟ์ เมื่อมีการแจกโค้ดที่สามารถช่วยโปรโมทไลฟ์ได้

4. Lazada Live

อีกหนึ่งแพลตฟอร์ม Ecommerce ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยช่องทางไลฟ์บน Lazada มีความน่าสนใจที่สามารถช่วยแบรนด์ในการเพิ่มยอดขายดังนี้

  • สามารถสร้างโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในไลฟ์ การปล่อยคูปอง หรือการแจก Voucher Rain เพื่อดึงดูดลูกค้า
  • มีสรุปผลการไลฟ์ในทันทีหลังจากจบการไลฟ์ ซึ่งข้อมูลจะบันทึกผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายใน 7 วันหลังไลฟ์จบ
  • สามารถตั้งเวลาไลฟ์ล่วงหน้าได้ เพื่อแจ้งเตือนไปยังผู้ติดตาม
  • มีไอคอนไลฟ์บนหน้าสินค้าของร้านขณะที่ทำการไลฟ์

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับแพลตฟอร์มต่างๆ ที่รวบรวมมาในวันนี้ แม้ว่าแต่ละแพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์และรายละเอียดต่างๆ ที่มีความน่าสนใจแตกต่างกันออกไป แต่การเลือกแพลตฟอร์มจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของสินค้า กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงไปถึงรูปแบบโปรโมชั่นที่แบรนด์ต้องการนำเสนอ ให้สอดคล้องไปกับแพลตฟอร์มและเป้าหมายทางการตลาดของแบรนด์ด้วยค่ะ

แหล่งที่มา: Facebook, Rainmaker, influencermarketinghub


ถ้าไม่อยากพลาดข้อมูลดีๆ กดติดตาม เพจ Unicorn House ไว้ตอนนี้เลย !🦄✨

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือปรึกษาเรื่องวางแผนธุรกิจได้ที่ 

💚 LINE : @unicornhouse (อย่าลืมใส่ @ ข้างหน้า)

หรือคลิกลิงค์นี้  ☞  https://bit.ly/3aheB3G

📞 Tel : 02-077-0323

🌐 https://unicornhouse.me/